image

กู้เพิ่ม VS เพิ่มวงเงิน แตกต่างกันอย่างไร ?

การตัดสินใจเรื่องการเงินเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการขยายวงเงินสินเชื่อ หรือขอเพิ่มเงินกู้เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น เช่น การซื้อบ้าน การปรับปรุงบ้าน หรือการลงทุนในธุรกิจใหม่ การเข้าใจความแตกต่างระหว่างการ "กู้เพิ่ม" และการ "เพิ่มวงเงิน" เป็นสิ่งสำคัญ เพราะทั้งสองตัวเลือกมีลักษณะและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน และการเลือกวิธีที่เหมาะสมสามารถช่วยให้จัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น

การศึกษาและทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่าง การกู้เพิ่ม (Top-up Loan) และ การเพิ่มวงเงิน (Credit Limit Increase) พร้อมทั้งข้อดีข้อเสีย และวิธีการเลือกใช้ให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด ทั้งในแง่ของการวางแผนการเงินระยะยาวและการบริหารสินเชื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงิน

กู้เพิ่ม (Top-up Loan) และ เพิ่มวงเงิน (Credit Limit Increase) เป็นคำที่มักใช้ในเรื่องของการเงินและสินเชื่อ ซึ่งทั้งสองคำมีความหมายและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. กู้เพิ่ม (Top-up Loan)

การ "กู้เพิ่ม" คือการขอขยายวงเงินสินเชื่อจากเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยการกู้เพิ่มนี้จะเป็นการเพิ่มยอดเงินที่กู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ทั้งหมด โดยการกู้ครั้งนี้จะต้องมีการทำสัญญาใหม่ รวมถึงมีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขใหม่ตามยอดเงินที่กู้เพิ่ม

ลักษณะการใช้งาน :

o การขอกู้เพิ่มมักเกิดขึ้นในกรณีที่ลูกค้าต้องการเงินเพิ่มจากสินเชื่อเดิม เช่น จากสินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อบุคคล

o ลูกค้าจะได้รับเงินกู้ใหม่จากธนาคารในยอดที่เพิ่มขึ้นจากวงเงินเดิม

o การกู้เพิ่มมักจะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่ และเงื่อนไขการผ่อนชำระที่อาจแตกต่างจากเดิม

ตัวอย่าง : ถ้าคุณมีสินเชื่อบ้านและต้องการกู้เงินเพิ่มเพื่อใช้ในการตกแต่งบ้าน หรือใช้จ่ายอื่น ๆ ก็สามารถขอกู้เพิ่มจากธนาคารได้ โดยการกู้เพิ่มนี้อาจจะรวมเงินต้นเดิมและเงินที่ขอกู้เพิ่มใหม่เข้าด้วยกัน

2. เพิ่มวงเงิน (Credit Limit Increase)

การ "เพิ่มวงเงิน" คือการขอให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเพิ่มวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่เดิม เช่น วงเงินบัตรเครดิต หรือวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล โดยที่ลูกค้าไม่ต้องกู้เพิ่มแต่อย่างใด เป็นการปรับเพิ่มวงเงินที่อนุมัติให้ลูกค้าใช้ได้

ลักษณะการใช้งาน :

o การเพิ่มวงเงินจะเกิดขึ้นในกรณีที่ลูกค้าต้องการวงเงินมากขึ้นจากเดิม เช่น วงเงินบัตรเครดิต หรือวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล

o มักจะไม่มีการทำสัญญาใหม่หรือขอกู้เงินใหม่ เพียงแค่ขอปรับเพิ่มวงเงินที่มีอยู่

o ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาจากประวัติการชำระหนี้และความสามารถในการชำระเงินของลูกค้า

ตัวอย่าง : ถ้าคุณมีบัตรเครดิตที่มีวงเงิน 50,000 บาท และต้องการเพิ่มวงเงินเป็น 100,000 บาท สามารถขอให้ธนาคารพิจารณาเพิ่มวงเงินได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องกู้เงินใหม่หรือลงนามในสัญญาใหม่

การเลือก "กู้เพิ่ม" หรือ "เพิ่มวงเงิน" ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน ทั้งสองตัวเลือกมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การพิจารณาให้ถี่ถ้วนจะช่วยให้เลือกวิธีที่เหมาะสมและสามารถบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง